Rain [Wilardo x Ashe] - Rain [Wilardo x Ashe] นิยาย Rain [Wilardo x Ashe] : Dek-D.com - Writer

    Rain [Wilardo x Ashe]

    สิ่งนี้คือ นิยายเรื่องแรกที่เรานำมาลงใน dek d /เขินจ้ะ อรั้ย-- ผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะครับ

    ผู้เข้าชมรวม

    689

    ผู้เข้าชมเดือนนี้

    6

    ผู้เข้าชมรวม


    689

    ความคิดเห็น


    4

    คนติดตาม


    14
    เรื่องสั้น
    อัปเดตล่าสุด :  3 มิ.ย. 61 / 21:38 น.


    ข้อมูลเบื้องต้น

    สวัสดีชาวโลก

    เราคือ เกี๊ยว คนที่ชอบวาดรูปในกลุ่มนั่นไง(เอ๊ะ เคยเจอกันหรอว์) วันนี้ก็ได้งอกแฟนฟิค

    วิลาร์โด x แอช ออกมาหนึ่งหน่อ ด้วยความกาวล้วนๆ (แต่เนื้อหาฟิคไม่กาวนาจา)

    และแน่นอนว่าที่โผล่มาจ่าหน้าซองแบบนี้ ก็เพื่อจะมาเตือนทุกๆคนเกี่ยวกับฟิคนี้

    แฟนฟิคนี้จัดทำขึ้นมาเพื่อสนองนีทผู้เขียน ห้ามนำไปเผยแพร่ในเชิงพาณิชย์

    มีเนื้อหารุนแรง ผู้ที่อายุไม่ถึงเกณฑ์ควรได้รับคำแนะนำ

    มีเนื้อหาไปในเชิง YAOI หรือ BL

    ไม่มีฉาก NC เวิ่นกาวล้วนๆ


    ขอให้ทุกท่านมีความสุขกับการเสพ ซู้ดดดด…

    เกี๊ยวคนจร

    -------------------------------------------------------------------------

    ภายในห้องนอนสีแดง แสงเทียนภายในห้องถูกดับลง มีเพียงม่านตรงหน้าต่างที่เรืองแสงจันทร์นวล ม่านที่ปิดกั้นแสงนั้นไว้ดั่งจะเปรยว่า ไม่ต้องการให้ความช่วยเหลือใดๆส่งมาถึงร่างที่นอนหายใจแผ่วอยู่บนเตียงนุ่มเปรอะเลือด


    ชายผมสีเข้มนั่งคร่อมร่างที่แน่นิ่งไร้การตอบสนอง ดวงตาที่เคยนิ่งสุขุมกลับเปี่ยมแววไปด้วยความตื่นตระหนกตกใจสุดขีดจนนัยต์เนตรสั่นระริก คำโกหกที่พยายามสร้างขึ้นมาลวงหลอกตนเองพลันสลายไปเมื่อมือข้างหนึ่งของเขากำรวบอยู่ที่ลำคอระหงนั้น!


    “.....”วิลาร์โดค่อยๆคลายมือที่สั่นเทานั้นออกจากลำคอขาว แสงริบหรี่จากหน้าต่างแม้จะไม่สว่างมากแต่ก็พอให้เห็นว่าที่คอนั้นมีรอยช้ำจ้ำใหญ่ล้อมรอบ เสื้อผ้าของเหยื่อถูกฉีกออกไม่เหลือชิ้นดีราวกับเพิ่งสู้กับสิงโตคลั่งมาหมาดๆ ไม่รวมบาดแผลตามตัวซึ่งยังชื้นเลือด จากการดิ้นรนตะเกียกตะกายเอาชีวิตรอด หลักฐานที่สร้างบาดแผลเหล่านั้นเองก็ทิ้งเกลื่อนอยู่เต็มพื้นโดยรอบ เศษแจกัน เศษแก้ว ไปจนถึง...ปลอกกระสุนปืน


    ความรู้สึกตอนที่เขาชักปืนบนพื้นนั้นขึ้นมาไล่ยิงผู้บุกรุกผู้โชคร้ายคนนี้ยังติดอยู่ที่มือ สิ่งแรกที่เขาคิด คือการปรามอีกฝ่ายไม่ให้เข้ามาทำร้ายตน นัดที่หนึ่งตรงไปยังขาอีกฝ่ายเพื่อหยุดการเคลื่อนไหว เพียงเท่านั้นก็น่าจะพอ…


    แต่มันกลับเลยเถิดมาเรื่อยๆ จนเขาเกือบจะเป็นคนร้ายไปซะเอง



    4 - 6 ชั่วโมงก่อนหน้า…


    “ฝน….?”เสียงทุ้มเรียบเอ่ยพร้อมกับมองออกไปนอกหน้าต่างบานเล็กที่ชั้นบน หยาดน้ำนับล้านที่ร่วงลงมาจากฟ้านั้นเขาไม่เคยอยากจะโดนมันเลย แต่พอติดอยู่ที่นี่ ก็นึกอยากจะออกไปรับมันสักครั้ง เอาให้ไข้จับไปเลย…


    ซ่าา….


    สายฝนที่ลงมาจากฟ้า ตกลงสู่พื้นเบื้องล่างอย่างไร้จุดหมาย ไม่รู้ว่าหยาดน้ำเหล่านี้จะได้ช่วยมอบชีวิตให้กับใคร หรือเพียงแค่ผ่านมาชโลมคฤหาสน์นี้ให้ชุ่มชื้น


    “คุณวิลาร์โด!”เขาหันไปมองตามเสียงเรียกขานนั้นช้าๆ ร่างสูงในชุดพื้นเมืองสีเขียวเข้ากับเรือนผมยาวสีมิ้นต์ยืนยิ้มทะเล้นอยู่ตรงนั้น แต่สำหรับเขามันเป็นรอยยิ้มที่น่ารังเกียจ รอยยิ้มเสแสร้ง


    “แอช...”


    “ว้าว...ฝนตกด้วยแฮะ”คู่สนทนาเบี่ยงประเด็นไปพร้อมกับกึ่งวิ่งกึ่งเดินเข้ามาเกาะหน้าต่างด้วยอีกราย จ้องมองทิวทัศน์ที่ถูกสายฝนกลืนแทบมิด


    “ฝนห่าใหญ่เลยนะเนี่ย ดูสิ”


    “เห็นแล้ว”วิลาร์โดตอบกลับไปแบบไม่สบอารมณ์นัก เรื่องคำสาปยังไม่น่าเคืองเท่าต้องติดอยู่ในที่พิลึกกับคนพิกลชอบสอดชาวบ้านอย่างแอช ถึงจะบอกว่า ไม่รู้ก็ต้องถาม แต่ถ้ามันมากไปมันก็น่ารำคาญ


    “ไม่นึกเลยนะเนี่ย...ทั้งที่ตอนเช้าแดดยังออกเปรี้ยงๆอยู่เลยแท้ๆ”ความเงียบยังคงถูกแอชทำายเรื่อยๆ


    “...เนอะ คุณวิลาร์โด”เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายไม่ตอบอะไรก็เรียกชื่อ กระตุ้นให้ตอบกลับมาบ้าง แต่ก็ยังไร้ซึ่งซุ้มเสียงนอกจากพยักหน้าแล้วก็ไม่มีอะไรตอบมาอีก


    ซ่าาา….


    เสียงฝนเป็นสิ่งเดียวที่กลบความเงียบนี้ไว้ลึกๆ แม้มันจะเหลือความเศร้าหมองเอาไว้ก็ตาม แอชหันหน้ากลับไปจ้องมองสายฝนผ่านหน้าต่างก่อนจะเริ่มทำลายความเงียบอีกครั้งหนึ่ง


    “คุณวิลาร์โด”


    “อะไร”


    “ฝนเนี่ย...ทำไมผู้คน ถึงคิดว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของความเศร้าหมองกันล่ะ?”


    “.....”


    แอชถอดถอนหายใจออกมาพร้อมระบายยิ้มเศร้า สายตายังไม่ละจากภาพตรงหน้า ราวกับไม่ได้เห็นมันมานาน อยากจะดื่มด่ำไปกับมันจนหยาดฟ้าหยดสุดท้าย


    “เพราะว่ามันบดบังแสงอาทิตย์เหรอ...แต่สำหรับผม ผมว่ามันคือสัญลักษณ์ของชีวิตนะ คิดดูสิว่าถ้าไม่มีมัน เราจะเป็นยังไง”


    “จะเป็นยังไงก็ช่าง มันไม่เกี่ยวกับฉัน”วิลาร์โดตอบปัดๆไป ก่อนจะหมุนตัวเดินกลับห้องตนไป ทิ้งให้อีกฝ่ายอยู่คนเดียวกับเสียงฝน



    สายฝน...คือ สัญลักษณ์ของชีวิตและความเศร้าหมอง...จะบอกว่าการที่ยังมีชีวิต คือความเศร้าหมองหรือ…


    ร่างนี้ที่ต้องแบกรับ ลมหายใจและชีพจรที่เต้นไปเรื่อยๆไม่หยุดหย่อน อายุขัย ทุกสิ่งที่ผ่านมาและผ่านไป...ล้วนทำให้ผู้คนเศร้าหมอง...เช่นนั้นแล้ว จะมีชีวิตอยู่ไปเพื่อเหตุอันใดกัน


    ทั้งที่อุตส่าห์เกิดมาแต่กยังอยากตาย ทั้งที่อุตส่าห์ยิ้มได้แต่ก็ยังเศร้า...ช่างน่าฉงน




    แกร๊ก….


    ในยามวิกาลคืนนั้น เสียงลูกบิดประตูดังแทรกเข้ามาในห้องสีแดง ชายผมสีเข้มที่กำลังนอนคิดคำนึงบางอย่างได้หยุดความคิดของตนไปแล้วเงี่ยหูฟังเสียงฝีเท้าที่ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ จังหวะการเดินที่เหมือนย่องเบานั้นทำให้เขาระแวงจนเลื่อนมือไปจับปืนที่วางอยู่ข้างกายเตรียมไว้ ก่อนจะรีบลุกพรวดขึ้นมายิงมันใส่ผู้บุกรุก


    เปรี้ยง!!


    “อ๊าากกก!!”เสียงคุ้นเคยร้องออกมาอย่างเจ็บปวด ตามด้วยเสียงของหนักร่วงลงพื้นแตกกระจาย เดาได้ไม่ยากเลยว่าเป็นใครที่ย่องเข้ามาจะเอาแจกันใบนั้นทุบใส่หัวเขา โชคยังดีที่เขาไหวตัวทัน เพราะตอนลุกขึ้นมาก็เห็นแอชยกมันเตรียมเหวี่ยงเต็มแรงแล้ว..


    “แอช...”เขาเอ่ยชื่อนั้นด้วยน้ำเสียงเย็นยะเยือก พลางมองคนที่ทำหน้าเหยแกนั้นเงยขึ้นมายิ้มยียวนใส่

    “แหม...แหมๆ….พลาดจนได้สินะ”


    “แกฆ่าฉันไม่ได้หรอกนะแอช”เขาว่าทั้งที่ยังหันปากกระบอกปืนไปที่คนร้าย คราบเลือดที่ติดตามตัวนั้น คงจะไปปลิดชีวิจใครมาก่อนหน้าแน่ๆ…


    น่ารังเกียจเป็นบ้า


    “อย่าทะนงตนไปหน่อยเลย...คิดว่ามีปืนแล้วแกจะทำอะไรฉันได้รึไง!?”


    ปิดปากเขาซะ


    เสียงหนึ่งแทรกเข้ามาในหัวของเขาก่อนที่ร่างะลุกพรวดเข้าไปคว้าหมับที่ข้อมือขวาอีกฝ่ายทั้งที่ยังมีมีดอยู่ในมือ แล้วเหวี่ยงให้ล้มลงไปกับพื้น เสียงร้องเจ็บปวดจากร่างที่อยู่ข้างใต้ดังขึ้น เศษกระเบื้องแตกบนพื้นบาดทะลุผ้าเข้าไปจนห้อเลือด ขนาดที่แอชจมอยู่กับความเจ็บปวดจากบาดแผลที่เพิ่มเข้ามาอีกก็ใช้ด้ามปืนตบเข้าที่หน้าอีกฝ่ายจนหน้าหัน


    สัญชาตญาณและความต้องการที่จะเป็นผู้ชนะตามประสาสัตว์ครอบงำชายผมสีเข้ม ความรุนแรงในการทำร้ายเริ่มหนักขึ้นและถี่ขึ้น เขาขยับถอยออกมายืนมองร่างที่ตอนนี้จะลุกขึ้นนั่งยังไม่รอด พื้นเปื้อนไปด้วยรอยเลือดากร่างที่กำลังลากสังขารไปยังประตู


    “....”วิลาร์โดยืนมองภาพน่าสังเวชตรงหน้าก่อนจะก้าวขาไปเหยียบแผ่นหลังบางให้จมลงไปกับพื้น รับเศษกระเบื้องอีกหนจนเจ้าของร่างกรีดร้อง แล้วเหยียบซ้ำแผลกระสุนปืนที่ขาจนเลือดตกมากกว่าเดิม


    “แกคิดว่าจะจบอยู่แค่นี้รึไง? แอช...”


    “พอได้แล้ว...ผมขอโทษ…”เสียงสั่นเครือสะอื้นไห้เอ่ยขอความปรานี ฆาตรกรที่เพิ่งจะฆ่าคนมาหมาดๆตอนนี้เป็นลูกไก่ในกำมือ ขาข้างที่บาดเจ็บเองก็ขยับไหวติงไม่ได้ รวมทั้งสติที่เริ่มเลือนลางจากการเสียเลือดมาก


    “ขอโทษ…?”เขายกเท้าออกจากอีกฝ่ายแล้วเดินมาเขี่ยให้นอนหงายเพื่อดูบาดแผลตามตัว เศษกระเบื้องบางชิ้นยังปักอยู่ตามตัว แต่นั่นไม่ได้ทำให้เขาใจอ่อน


    ผัวะ!!


    วิลาร์โดซัดหมัดหนักๆเข้าที่ใบหน้าเปื้อนน้ำตานั้น เป็นการตัดสติที่เหลืออยู่เฮือกสุดท้าย เสียงฝนและเสียงฟ้าร้องดังมาจากข้างนอก ฝนยังคงตกไม่หยุดหย่อน เหมือนกับตัวเขาในตอนนี้ที่ถูกอารมณ์ของสัตว์ชโลมอาบไปทั้งตัว เมื่อได้เห็นร่างอีกฝ่ายถูกย้อมไปด้วยเลือดและบาดแผล


    ต้องการที่จะช่วงชิงทุกอย่างไปจากฆาตรกรตรงหน้า แม้แต่โอกาสและความคิดที่อยากจะมีชีวิตอยู่ จะไม่ให้เหลืออะไรนอกจากสายฝนที่จะไหลอาบสองข้างแก้มนั้น จนกว่าเขาจะเป็นคนดับเปลวชีวิตดวงน้อยนี้ทิ้งไปเองกับมือ


    ฉันจะมอบสายฝนตลอดกาลใหกับนายเอง…..


    .

    .

    .


    “.....” หลังจากดื่มด่ำกับความเจ็บปวดและเสียงกรีดร้องของอีกฝ่ายไปแล้ว เขาก็ลุกมานั่งเหม่ออยู่ที่ปลายเตียง เสียงฝนเองก็เงียบไปแล้ว ฟ้าไร้เมฆเปิดให้แสงจีนทร์สาดผ่านช่องว่างของผืนผ้าม่านเข้ามาบนพื้นพรม กระทบกับเศษกระเบื้องบนพื้นสะท้อนเป็นแสงสีขาวคล้ายมีดวงดาวเล็กๆในห้อง


    วิลาร์โดเหลือบไปมองร่างที่ตนทำแผลให้เสร็จเรียบร้อยนอนหมดสติอยู่บนเตียง และไม่มีท่าทีว่าจะฟื้นขึ้นมาเร็วๆนี้ ความรู้สึกผิดเริ่มถาโถมเข้ามาก่อนจะจางหายไปกับคำพูดที่แวบเข้ามาในหัวเมื่อยามโพล้เพล้


    “ฝนเนี่ย...ทำไมผู้คน ถึงคิดว่ามันเป็นสัญลักษณ์ของความเศร้าหมองกันล่ะ?”


    “เพราะว่ามัน..บดบังแสงงั้นเหรอ…?”


    .

    “...ไม่หรอก ไม่ใช่กับฉัน”เขาเอ่ยขึ้นมาเบาๆพร้อมกับคลี่ยิ้มพึงพอใจเงียบๆ สำหรับแอชแล้วนี่คงจะเป็นฝนห่าใหญ่ แต่สำหรับเขา...ฝนเพิ่งจะหยุดตกไปหมาดๆ

    .


    ฉันจะทำให้นายรู้สึกเหมือนอยู่ท่ามกลางพายุฝนเอง...



         ---------
           เป็นไง----- รอดมั้ย
          นี่เป็นฟิคแรกที่ลองแต่งแบบจริงๆจังครับ เนื้อเรื่องอาจจะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ การบรรยายเองก็...เอิ่ม....ถอดแบบมาจากโรลเลย 555555 ก็ขอบคุณที่เข้ามาอ่านนะครับ! โอกาสหน้าอย่าลืมเข้ามาอ่านและติชมกันด้วยนะครับ!
    ตั้งค่าการอ่าน

    ค่าเริ่มต้น

    • เลื่อนอัตโนมัติ

      ผู้อ่านนิยมอ่านต่อ ดูทั้งหมด

      loading
      กำลังโหลด...

      ความคิดเห็น

      ×